สายดื่มไวน์ต้องมี ตู้แช่ไวน์ หลังเปิดดื่มรสชาติก็ไม่เปลี่ยน

สำหรับคอไวน์ตัวจริง การได้ลิ้มรสไวน์ในรสชาติที่สมบูรณ์แบบที่สุดคือความสุขที่แท้จริง แต่ปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญคือเมื่อเปิดไวน์แล้วดื่มไม่หมด การเก็บรักษาไวน์ที่เหลือให้คงรสชาตินั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การแช่ในตู้เย็นธรรมดาอาจทำให้อุณหภูมิไม่คงที่และมีกลิ่นอาหารปะปนเข้ามา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รสชาติของไวน์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นี่คือเหตุผลที่ ตู้แช่ไวน์ จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสายดื่ม เพราะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยรักษาคุณภาพไวน์ของคุณให้เหมือนเพิ่งเปิดใหม่ในทุกครั้งที่รินดื่ม

ตู้แช่ไวน์ ทำไมสายดื่มไวน์ต้องมี ?

ตู้ไวน์ไม่ได้มีไว้แค่ทำความเย็นเท่านั้น แต่เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ 100% เพื่อให้ไวน์สามารถคงความสมบูรณ์ไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นไวน์ที่รอการบ่ม หรือไวน์ที่เปิดดื่มไปแล้ว โดยมีปัจจัยสำคัญที่คุณควรทราบ ดังนี้

• รักษาอุณหภูมิให้คงที่ (Temperature Stability)

การรักษาอุณหภูมิให้เสถียรสำคัญมาก ตู้แช่ไวน์ จึงได้ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาอุณหภูมิให้มั่นคงมากที่สุด เพราะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถเร่งให้ไวน์แก่เร็วขึ้นหรือทำให้รสชาติเสียได้

• ช่วยลดกลิ่นปนเปื้อน (Odor Control)

ตู้เย็นทั่วไปเต็มไปด้วยกลิ่นอาหาร ซึ่งจุกไม้ก๊อก (Cork) ของไวน์สามารถดูดซับกลิ่นเหล่านี้ได้ ทำให้รสชาติไวน์เปลี่ยนไป ตู้ไวน์ ที่ดีมักมีระบบกรองอากาศ (เช่น Carbon Filter) เพื่อให้มั่นใจว่าอากาศภายในตู้สะอาดและไม่มีกลิ่นรบกวน

• ควบคุมความสว่าง (UV Protection)

แสงแดดและรังสี UV สามารถทำลายโมเลกุลในไวน์ ทำให้เกิดรสชาติที่เรียกว่า "Light Strike" ตู้แช่ไวน์ ส่วนใหญ่จึงใช้กระจกที่เคลือบสารป้องกันรังสี UV เพื่อให้คุณสามารถโชว์คอลเลกชันไวน์ได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวล

• ลดการสั่นสะเทือน (Anti-Vibration System)

การสั่นสะเทือนจากการทำงานของมอเตอร์หรือการเปิด-ปิดตู้บ่อยครั้ง สามารถรบกวนกระบวนการบ่มและทำให้ตะกอนในไวน์ฟุ้งกระจาย ตู้ไวน์คุณภาพสูงจะมีระบบลดการสั่นสะเทือนที่ช่วยให้ไวน์ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

• ไม่เสียรสชาติหลังเปิดดื่ม (Preservation after Opening)

นี่คือประโยชน์หลักของ ตู้เก็บไวน์ สำหรับสายดื่มที่เปิดไวน์บ่อยครั้ง เมื่อปิดด้วยจุกไวน์ที่ดีแล้ว การนำไปเก็บในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมความเย็นได้อย่างสมบูรณ์ จะช่วยชะลอการทำปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไวน์ที่เหลือยังคงความสดใหม่และรสชาติไม่เปลี่ยนไปจากเดิม

แนะนำอุณหภูมิที่เหมาะสม ของการเก็บไวน์แต่ละประเภท

การตั้งอุณหภูมิในตู้ไวน์ให้ถูกต้องคือหัวใจสำคัญในการดึงรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของไวน์ออกมาได้อย่างเต็มที่ เพราะไวน์แต่ละประเภทต้องการความเย็นที่แตกต่างกัน เพื่อให้คงความสมบูรณ์และพร้อมดื่มที่สุด นี่คืออุณหภูมิที่แนะนำสำหรับการเก็บไวน์แต่ละประเภท

• ไวน์แดง (Red Wine)

อุณหภูมิที่แนะนำ: ควรเก็บรักษาในช่วง 12-19°C

ไวน์แดงไม่ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิห้องตามความเข้าใจเดิม ๆ แต่ควรแช่เย็นลงเล็กน้อย การเก็บในช่วงอุณหภูมินี้จะช่วยลดความโดดเด่นของแอลกอฮอล์ และทำให้รสชาติและกลิ่นที่ซับซ้อนของไวน์แดงถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด

• ไวน์ขาว (White Wine)

อุณหภูมิที่แนะนำ: ควรเก็บรักษาในช่วง 8-12°C

ไวน์ขาวต้องการความเย็นมากกว่าไวน์แดง เพื่อคงความสดชื่นและรสชาติเปรี้ยวอมหวานไว้ แต่ต้องระวังไม่ให้เย็นจัดจนเกินไป เพราะอุณหภูมิที่ต่ำมากจะทำให้รสชาติที่ละเอียดอ่อนและกลิ่นหอมของไวน์ถูกปิดกั้น

• โรเซ่ ไวน์ (Rosé Wine)

อุณหภูมิที่แนะนำ: ควรเก็บรักษาในช่วง 10-12°C

ไวน์โรเซ่ต้องการอุณหภูมิที่เย็นกำลังดี คล้ายกับไวน์ขาว เพื่อเน้นความสดใสและผลไม้ในรสชาติ การเก็บรักษาในช่วงนี้จะช่วยให้ไวน์โรเซ่ยังคงความสดชื่นและรสชาติที่นุ่มนวล

• สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) และแชมเปญ (Champagne)

อุณหภูมิที่แนะนำ: ต้องการความเย็นที่สุด ควรเก็บรักษาในช่วง 5-8°C

ไวน์ประเภทนี้ต้องอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นจัดเพื่อรักษาแรงดันคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ให้คงที่ การทำเช่นนี้จะช่วยให้ไวน์ยังคงความซ่าและรสชาติที่สดชื่นที่สุด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้สปาร์คกลิ้งไวน์และแชมเปญเป็นที่นิยมสำหรับงานฉลอง

การเลือก ตู้แช่ไวน์ ที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิแบบหลายโซน (Multi-Temperature) จะช่วยให้คุณสามารถเก็บไวน์ทุกประเภทไว้ในตู้เดียวกันได้อย่างเหมาะสม ทำให้ไวน์ของคุณพร้อมเสิร์ฟในอุณหภูมิที่สมบูรณ์แบบที่สุดเสมอ

ตู้แช่ไวน์ จาก Great Earth ถนอมไวน์ระดับมืออาชีพ

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสายดื่มไวน์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของรสชาติ และต้องการยกระดับการถนอมไวน์ให้เป็นไปตามมาตรฐานโลก Great Earth ขอแนะนำตู้เก็บไวน์ จาก EuroCave แบรนด์ชั้นนำจากฝรั่งเศส ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถมอบสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดให้กับไวน์ของคุณได้จริง ด้วยนวัตกรรมที่ควบคุมทุกปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ความชื้น แสง หรือการสั่นสะเทือน เรามี 3 รุ่นเด่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน

EuroCave Royale - ห้องใต้ดินไวน์ส่วนตัวที่หรูหราที่สุดในโลก

สำหรับนักสะสมไวน์ชั้นเลิศและไวน์มูลค่าสูง Royale คือคำตอบและเป็นตัวเลือกที่ดี จากการได้รับการยกย่องให้เป็น ตู้แช่ไวน์ ที่ดีที่สุดในโลก ซึ่ง Royale ถูกออกแบบมาเพื่อการบ่มไวน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยการควบคุมอุณหภูมิที่ 12°C และความชื้นคงที่ที่ 70% (สำหรับโหมดบ่ม) พร้อม การรับประกันสูงสุด 10 ปี

ประสิทธิภาพการบ่มขั้นสุด (Ultimate Preservation)

• ควบคุมอุณหภูมิที่ 12°C และความชื้นคงที่ที่ 70% (สำหรับโหมดบ่ม)
• ลดแรงสั่นสะเทือนต่ำกว่าคู่แข่งถึง 6 เท่า
• บานกระจก Triple Glazed กรองรังสี UV ได้มากกว่า 99%
• มีไส้กรองถ่านกัมมันต์เพื่อกรองอากาศบริสุทธิ์

ดีไซน์เหนือระดับ (Sophisticated Design)

• เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกด้วยไฟ LED สีอำพัน ใต้ชั้นวาง
• ชั้นวางแบบ Soft Close พร้อมที่รองรับขวด "Main du Sommelier" ที่อ่อนโยนต่อไวน์ทุกขวด
• การรับประกันสูงสุด 10 ปี

EuroCave Compact - ตู้แช่ไวน์ แบบ Built-in ตอบโจทย์คนรักดีไซน์

หากคุณกำลังมองหา ตู้แช่ไวน์ ที่ติดตั้งได้อย่างกลมกลืนในห้องครัวหรือพื้นที่จำกัด Compact Collection คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ ถูกออกแบบมาในขนาดมาตรฐานเพื่อให้สามารถ บิลต์อิน (Built-in) ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น

ฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น (Multi-Function)

• มีตัวเลือกทั้งแบบ Single-temperature (สำหรับการบ่ม) และ Multi-Temperature (สำหรับการพร้อมเสิร์ฟ)
• สามารถไล่ระดับอุณหภูมิได้สูงสุด 10 โซน ในตู้เดียว

การจัดเก็บที่ปรับเปลี่ยนได้ (Flexible Storage)

• รองรับความจุได้ถึง 167 ขวด
• เลือกผสมผสานชั้นวางได้ตามต้องการ เช่น Sliding Shelf หรือ Display Kit

EuroCave Tête à Tête - โซลูชันขนาดกะทัดรัดสำหรับช่วงเวลาพิเศษ

สำหรับผู้ที่ต้องการ ตู้แช่ไวน์ ขนาดเล็กเพื่อใช้งานในพื้นที่ส่วนตัว หรือต้องการเก็บไวน์ที่เปิดแล้ว Tête à Tête คือนวัตกรรมที่ครบครัน ด้วยความจุ 12 ขวด และถูกออกแบบมาเพื่อนำไวน์สู่จุดพร้อมเสิร์ฟที่สมบูรณ์แบบ

นวัตกรรมการเก็บรักษาหลังเปิด (Vacuum Sealing System)

• มี ระบบสุญญากาศ สำหรับเก็บรักษาไวน์ที่เปิดแล้ว 2 ขวด
• ยืดรสชาติได้นานสูงสุดถึง 10 วัน ป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันได้อย่างดีเยี่ยม

อุณหภูมิพร้อมเสิร์ฟที่แม่นยำ (Staggered Temperature)

• มีระบบอุณหภูมิไล่ระดับที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ระหว่าง 6°C ถึง 12°C
• ช่วยให้ไวน์พร้อมเสิร์ฟในอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดเสมอ

การลงทุนกับ ตู้ไวน์ ที่ได้มาตรฐานคือการลงทุนในคุณภาพและความสุขจากการดื่มไวน์ของคุณ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับไวน์แก้วโปรดได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรสชาติที่เปลี่ยนไปแม้จะเปิดดื่มไม่หมดก็ตาม

Great Earth International — The Greater Solution for Greater Business

เพราะธุรกิจร้านอาหารที่ดี เริ่มต้นจากพันธมิตรที่เข้าใจ เกรท เอิร์ธ อินเตอร์เนชั่นแนล คือผู้ให้บริการโซลูชันครบวงจรสำหรับร้านอาหาร ร้านกาแฟ และผู้ประกอบการด้าน Food Service ที่ต้องการสินค้าชั้นเลิศ บริการที่มืออาชีพ และการดูแลอย่างใส่ใจ ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี เราคือที่พึ่งของผู้ประกอบการมากกว่า 1,200 รายทั่วประเทศ

Great Earth คือผู้นำด้านการนำเข้าสินค้าพรีเมียมระดับโลก ทั้งวัตถุดิบ เครื่องดื่ม อุปกรณ์สำหรับร้านอาหารและเครื่องครัว จากแบรนด์ดัง อาทิ Caffè Vergnano 1882, Rocket Espresso, Gryphon Tea, Spiegelau, EuroCave, Bermar, de Buyer และ Monopole x Kaluga Queen ที่คัดสรรมาเพื่อยกระดับธุรกิจของคุณให้แตกต่างทั้งด้านรสชาติ คุณภาพ และภาพลักษณ์

สิ่งที่ทำให้ Great Earth แตกต่าง คือบริการครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษา คัดเลือกสินค้า ไปจนถึงบริการหลังการขาย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจความต้องการของร้านอาหารทุกระดับ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นหรือเป็นร้านที่ต้องการยกระดับมาตรฐาน

ที่สุดของโซลูชันเพื่อธุรกิจร้านอาหาร ที่รวมไว้ทั้งสินค้า บริการ และพันธมิตรที่คุณเชื่อมั่นได้

หากคุณกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้จริง — Great Earth International คือคำตอบ

สนใจดูสินค้า หรือนัดหมายเข้ารับคำปรึกษา ติดต่อเราได้เลย
Line : @greatearth

Tel : 02-255-1168

Facebook : Great Earth International

แผนที่ Showroom: http://bit.ly/GreatEarthBKKMap